8 วิธีห่างไกล….สมองเสื่อม

.
     หลายคนคิดว่าโรคสมองเสื่อม ความจำเสื่อม หรือแม้แต่โรคอัลไซเมอร์นั้น เป็นโรคของคนแก่ และมันจะเล่นงานเราก็ต่อเมื่อเราแก่แล้วเท่านั้น อย่างโรคอัลไซเมอร์ หมอจะวินิจฉัยโรคนี้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยมีอายุ 65 ปีขึ้นไปแล้ว ทำให้คนที่อายุยังไม่ถึง 65 ปี ไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเองเพื่อป้องกันโรคดังกล่าวกันเท่าไร

     การเกิดขึ้นของโรคนี้ไม่ ใช่ปุบปับพอมีอายุแล้วถึงเกิดขึ้นนะครับ ความจริงก็คือ ใครก็ตามที่ป่วยด้วยโรคนี้ โรคมันเริ่มมาตั้งแต่ตอนเขาอายุ 30 หรือ 40 ปีโน่นแหละ แต่ด้วยกำลังสำรองของสมองยังมีเยอะจึงชดเชยความผิดปรกติที่เกิดขึ้นได้หมด เราเลยไม่เห็นอาการของโรค แต่พออายุย่างเข้า 60 ปีหรือกว่านั้น กำลังสำรองของสมองเริ่มร่อยหรอและเสื่อมลง อาการของโรคจึงชัดเจนขึ้น

.

ด้วยเหตุนี้การป้องกันถ้าจะมาเริ่มตอนอายุ 60 ปีหรือกว่านั้น มันไม่ทันการณ์แล้วล่ะ

.

     แม้จะยังไม่รู้ชัดๆว่าโรคนี้เกิดจากอะไร แต่เราก็พอจะรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โรคเหล่านี้เลวร้ายยิ่งขึ้น ดังนั้น ถ้าเราจัดการกับสาเหตุที่ว่านี้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆจะป้องกันไม่ให้โรคลุกลามได้ไว และไม่แน่อาจจะป้องกันไม่ให้โรคนี้เกิดขึ้นเลยก็เป็นได้ วงการแพทย์เราก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น

     แดเนียล อาเมน จิต แพทย์ประจำอาเมนคลินิก สหรัฐอเมริกา ได้เสนอวิธีปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดขึ้นของโรคสมองเสื่อมเอาไว้ โดยอาศัยข้อมูลจากสาเหตุต่างๆที่ทำให้สมองของเราทำงานผิดปรกติ เขาเชื่อว่าหากเรามีวิธีป้องกันสาเหตุเหล่านี้ โอกาสที่โรคสมองเสื่อมจะเกิดกับเราก็คงยาก ที่สำคัญก็คือ เราต้องเริ่มทำตั้งแต่ตอนที่ยังหนุ่มๆ สาวๆ อย่าไปรอทำตอนแก่แล้ว เพราะเมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจจะสายไป ลองทำตามแดเนียล อาเมน ดูครับ

.

1. ดื่มน้ำให้เยอะๆ ในแต่ละวัน น้ำในปริมาณที่พอดีจะช่วยให้สมองทำงานได้ดี ภาวะขาดน้ำจะทำให้สมองเกิดความบกพร่องได้ ปริมาณน้ำที่พอดีของแต่ละคนคำนวณได้จากสูตร น้ำหนักตัวx33 = จำนวนน้ำเป็นซี.ซี. ที่เราควรจะได้รับในแต่ละวัน น้ำน้อยไปหรือเยอะไปเกิดปัญหาได้ทั้งนั้น บางคนแนะนำให้เอาขวดน้ำวางไว้ข้างๆ ตัวตลอดเวลาแล้วจิบบ่อยๆ เพื่อที่ร่างกายและสมองจะได้ไม่ขาดน้ำ แต่ต้องรู้ว่าปริมาณน้ำทั้งหมดที่ตัวเองควรจะได้ในแต่ละวันนั้นเท่าไร อย่าจิบเรื่อยเปื่อยจนน้ำเกินพอดี เพราะนี่ก็อันตรายอีกเหมือนกัน

.

2. นอนให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชั่วโมง เวลาที่เราหลับสมองจะจัดระบบความจำของเราครับถ้าเราไม่หลับหรือหลับไม่พอ ระบบนี้ก็รวน คนที่ไม่ได้นอน 2-3 วันติดต่อกัน เขาพบว่าความสามารถของสมองในเรื่องการใช้ความคิดและการตื่นตัวจะลดลง และเมื่อทดลองทำแบบนี้กับสัตว์ทดลอง เขาพบว่าเซลล์สมองของสัตว์ทด ลองในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ความคิดและการตื่นตัวของมันจะฝ่อไป การอดนอนหรือนอนไม่พอนี่อันตรายมากทีเดียว

.

3. ออกกำลังกาย เรื่องนี้ชัดเจนมานานแล้วครับว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะทำให้สมองส่วนเกี่ยวกับการใช้ความคิด การตัดสินใจ (Pre frontal Cortex) และสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ (Hippocampus) สามารถงอกงามขึ้นมาอีกได้

.

4. กินอาหารเช้าทุกวัน เรื่องนี้คนชอบมองข้ามกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสมองอย่างยิ่ง เพราะการไม่กินอาหารเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงในตอนสายๆ สมองต้องการระดับน้ำตาลที่สม่ำเสมอครับ การกินอาหารเช้าพวกแป้ง ผัก และผลไม้เยอะๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสม่ำเสมอ เป็นผลดีต่อสุขภาพของสมอง แต่การกินอาหารเช้าที่มีแต่น้ำตาลประเภทกาแฟหวานๆ ถ้วยเดียวกับขนมที่หวานๆ ก็อันตรายเช่นกัน เพราะน้ำตาลในกาแฟและขนมจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงโดยทันที จากนั้นร่างกายจะจัดการให้ระดับน้ำตาลลดลงต่ำกว่าปรกติภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ในที่สุดสมองก็อยู่ในสภาวะขาดน้ำตาลเช่นกัน

.

5. งดสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสมอง เหล้า บุหรี่ สารเสพติดทุกชนิดที่ทำอันตรายต่อเซลล์สมอง ต้องงดครับ

.

6. กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินต่างๆ ให้เพียงพอ ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะพวกที่มีสีเข้มๆ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินที่จำเป็นอยู่เยอะ ต้องกินให้มากเข้าไว้ อนุมูลอิสระเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของเราเองและเป็นอันตรายต่อเซลล์สมองของเราด้วย ตอนเป็นเด็กหรือตอนหนุ่มๆ สาวๆ กลไกของร่างกายที่จัดการกับอนุมูลอิสระนี้จะทำงานได้ดี แต่พอเราอายุมากขึ้นกลไกที่ว่านี้จะอ่อนแอลง เราจึงต้องได้สารต้านอนุมูลอิสระจากภายนอกเข้าไปช่วย

.

7. บันทึกเรื่องราวดีๆ ของตัวเองให้ได้วันละ 5 เรื่อง เรื่องราวดีๆ ที่เราได้ทำหรือได้ประสบในแต่ละวันทำให้เรามีความสุขครับ ก่อนนอนบันทึกไว้สักหน่อยจะช่วยให้เราเกิดความสุขใจ สมองจะทำงานได้ดีในภาวะที่มีความสุข และยังเป็นการออกกำลังสมองของเราอีกด้วย

.

8. เรียนรู้สิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา สมองของคนเราก็เหมือนกับร่างกาย เหมือนกับกล้ามเนื้อของเรานั่นแหละ พอไม่ได้ใช้งานนาน ๆก็ฝ่อ ก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไป แต่พอฟิตมันก็ปึ๋งปั๋งขึ้นมาได้ สมองคนเรา ยิ่งใช้ก็ยิ่งแข็งแรงยิ่งแหลมคม การเรียนรู้สิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะโดยการอ่านหนังสือ การเล่นเกมปริศนา เกมหมากรุก หรือแม้แต่การเล่นดนตรี จะทำให้สมองได้ออกกำลัง ได้ใช้งานอยู่ตลอด เมื่อนั้นโอกาสที่โรคสมองจะถามหาก็มีน้อยลง ถ้าไม่ใช้สมองเลยทุกอย่างอาศัยเครื่องทุ่นแรงหมด ประเภท 27-9 ยังต้องอาศัยเครื่องคิดเลข แบบนี้อนาคตน่าเป็นห่วง

.

ผลิตภัณฑ์ “กิงโกวิต้า” ได้รับมาตรฐาน อย 11-1-06353-1-0401
และมาตรฐานโรงงานจากยุโรปและ GMP

GinkgoVita เพิ่มพลังสมองเปิดความคิดสร้างสรรค์

สามารถสอบถามหรือสั้งซื้อ GinkgoVita

ได้ทาง LINE เพียงแค่กดปุ่มด้านล่างเพื่อ “ADD FRIEND”

 

เพิ่มเพื่อน

 

หรือ Facebook INBOX เพียงคลิกปุ่มด้านล่าง

Facebook inbox